ปวดท้องบ่อย… แค่โรคทางเดินอาหารทั่วไป หรือมะเร็งลำไส้

     อาการปวดท้องมีหลายรูปแบบ เช่น ปวดท้องบริเวณลิ้นปี่ ปวดท้องน้อย ปวดทั่วท้อง ปวดท้องร่วมกับมีไข้ ปวดท้องและท้องเสีย ปวดท้องและอาเจียน ปวดท้องร่วมกับปวดหลัง ปวดท้องแบบจุกเสียด นอกจากอาการแล้ว ยังมีระยะเวลาของการปวดซึ่งอาจแตกต่างกันเช่น ปวดเมื่อรับประทานอาหาร ปวดตลอดเวลา ปวดท้องเป็นๆหายๆ ซึ่งอาการปวดท้องควรได้รับการวินิจฉัยถึงสาเหตุที่แน่ชัด ผู้ที่มีอาการปวดท้องไม่จำเป็นต้องเป็นโรคมะเร็ง แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยมะเร็งลำไส้มักจะมีอาการหนึ่งคืออาการปวดท้อง มะเร็งลำไส้ในระยะเริ่มต้น มักไม่มีอาการแสดง บางรายอาจมีอาการปวดท้องบ้างเล็กน้อย หรือเพียงรู้สึกไม่สบายท้อง เมื่อโรคเริ่มลุกลามอาการปวดท้องจึงจะชัดเจนขึ้น หรือมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับการขับถ่าย

    จากสถิติพบว่าผู้ที่อายุมากกว่า 50 ปีเป็นช่วงวัยที่เริ่มพบมะเร็งลำไส้ได้มากขึ้น จึงได้มีคำแนะนำจากแพทย์ว่าทุกคนควรได้รับการตรวจส่องกล้องลำไส้ใหญ่เมื่ออายุครบ 50 ปี ซึ่งเป็นมาตรฐาน บางท่านที่อาจรู้สึกไม่สะดวกสบายหรือไม่สามารถจะเข้ารับการส่องกล้องได้ ในปัจจุบันมีการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก ด้วยการตรวจจากเลือด เป็นการตรวจที่เรียกว่า 𝗦𝗣𝗢𝗧-𝗠𝗔𝗦 ซึ่งสามารถคัดกรองมะเร็งได้ 10 ชนิดในการเจาะเลือดตรวจ 1 ครั้ง ใช้เป็นการตรวจคัดกรองประจำปี หากได้ผลบวก ควรได้รับการส่องกล้องเพื่อยืนยันผลอีกครั้ง อีกวิธีหนึ่งที่สามารถใช้ในการคัดกรองมะเร็งลำไส้ได้คือการตรวจหาเม็ดเลือดจากอุจจาระ

ผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงการเป็นมะเร็งลำไส้

1. ผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป
2. ผู้ที่ไม่ออกกำลังกาย เคลื่อนไหวน้อย
3. ผู้มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้หรือครอบครัวเป็นผู้ที่มีประวัติมีติ่งเนื้อในลำไส้
4. ผู้ที่มักรับประทานอาหารปิ้งย่างบ่อยๆ ทานผักน้อย ทานเนื้อแดงมากๆ และมีไขมันสูง
5. ผู้ที่มีอาการลำไส้แปรปรวนหรือลำไส้อักเสบเรื้อรัง

    อาการปวดท้องควรได้รับการวินิจฉัยอย่างละเอียด เพื่อให้ไม่พลาดโอกาสการรักษาที่เหมาะสม ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงข้างต้น เมื่อมีอาการปวดท้อง ควรเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ ทั้งนี้มะเร็งลำไส้เป็นหนึ่งในมะเร็งที่มีพยากรณ์โรคที่ดี การรักษาในระยะเริ่มต้นสามารถหวังผลหายขาดได้

Post Views: 29
Language »