ข่าวและการวิจัย เรื่อง ควันธูปกับมะเร็งปอด เป็นเรื่องที่ทราบกันดี เราควรปฏิบัติอย่างไร

     ความศรัทธาเป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจสำหรับทุกคน โดยเฉพาะช่วงที่จิตใจเปราะบางหรือเหนื่อยล้า ความศรัทธาทำให้เราก้าวพ้นอุปสรรค มีแรงสู้ต่อ

       โดยเฉพาะชาวเอเชียไม่ว่า ไทย ,จีน ,ญี่ปุ่น ,ฮ่องกง ,ไต้หวัน เราจะใช้วัดเป็นที่พึง และสิ่งหนึ่งที่พบเห็นคู่กัน คือ การจุดธูปเพื่อสักการะบูชา

     ในทางการแพทย์ ความศรัทธาและพลังจิตที่เข้มแข็งมีส่วนต่อการรักษาและเพิ่มภูมิคุ้มกัน  แต่ ธูป เมื่อเผาไหม้ จะปล่อยควันซึ่งเป็นฝุ่นละอองขนาดเล็กมาก ในฝุ่นขนาดเล็กนี้ประกอบไปด้วย เบนซิน บิวทาไดอีน และเบนเอไพรีน ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นสารก่อมะเร็ง

      งานวิจัยพบว่า สารพันธุกรรมในร่างกายของผู้ที่สูดดมควันธูปเป็นประจำ ไม่สามารถซ่อมแซมเหมือนคนปกติ และมีการแบ่งตัวถาวรจนกลายเป็นเซลล์มะเร็งโดยเฉพาะมะเร็งปอด โดยธูป 1 ดอก มีปริมาณสารก่อมะเร็งเทียบเท่าบุหรี่ 1 มวน และพบว่าผู้ป่วยมะเร็งปอด 100 คน มี 50 คนที่ไม่ได้สูบบุหรี่ แต่ได้รับควันธูปต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานหรือประจำ นอกจากนี้ยังพบรายงานในผู้ป่วยมะเร็งหลังโพรงจมูกและมะเร็งเม็ดเลือดขาวอีกด้วย

ปัจจุบันวัดจำนวนมากทั่วโลก ได้งดการจุดธูปแล้ว บางวัดให้จุดธูปในสถานที่เปิดโล่ง บางแห่งจะบังคับทิศทางการไหลของควันธูปออกไป

ข้อแนะนำที่สำคัญ คือ ผู้ที่เป็นโรคปอด ผู้สูงอายุ และเด็ก ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสธูปและควันธูป หากมีการสัมผัสควรมีการล้างมือ ล้างหน้า

จงมีความศรัทธาในความดี จงยึดเหนี่ยวคำสอนในทุกศาสนา และประพฤติตนโดยไม่ประมาท

เราจะมีความศรัทธาโดยปลอดภัยจากมะเร็งปอด

Golden Period คือ ช่วงเวลาทองของการรักษาผู้ป่วยมะเร็ง หากได้รับการรักษาในช่วงระยะเวลานี้

ผลวิจัยเผย “กลุ่มเสี่ยง” มะเร็งปอด เพิ่มโอกาสรอดได้มากกว่าขึ้น 20% เพียงเปลี่ยนวิธีการตรวจคัดกรอง

Post Views: 8,620
Language »